จะมองเห็นโลชั่นเยอะแยะ ทั้งหมด 5 ยี่ห้อ....
ทำไมใช้เยอะ
ใช้วนไปเรื่อยอะค่ะ วันไหนอยากใช้อะไร ก็หยิบอันนั้น ^^
ลดจุดด่างดำตามตัวได้ดีที่สุด
Smooth E Skin Therapie ขวดเขียว
ราคา : ขวดละ 265 บาท ใช้ได้ประมาณเดือน ถึงเดือนครึ่ง ถ้าใช้ทุกวัน (ปุ๋ยใช้เฉพาะตอนกลางคืน)
ความสบายตัว : เหนียว ทาแล้วเหนอะ (แต่ปุ๋ยชอบครีมที่ทาแล้วเหนอะ แห่ะๆ)
โลชั่นทาตัว ที่ลดรอยยุงกัดได้ดี รอยแตกลาย แต่มีข้อเสียคือ สำหรับบางคนอาจจะเนื้อข้นไป ทาแล้วไม่สบายผิว แต่เรื่องกลิ่นบอกเลย ถ้าใครชอบกลิ่นสมูทอี อันนี้คือโลชั่นที่แนะนำ เพราะนางหอมมาก กลิ่นเหมือนสมูทอีหลอดเป้ะๆเลย ซื้อใช้แล้ว หมดแล้ว ซื้ออีก ซื้อที่ 3-4 ขวด เป็นโลชั่นที่ซื้อประจำ
Jergens Soothing Aloe
ราคา : จำไม่ได้ แต่ไม่เกิน 300 บาท ในปริมาณสุดคุ้ม
ความสบายตัว : เนื้อเบาสบาย ทาแล้วซึมเข้าผิวดี แต่ไม่ได้ให้ความชุ่มชื่นมาก
เป็นโลชั่นที่ทาได้ทุกวันๆ แต่ไม่ได้ให้ความชุ่มชื่นมากมาย ทาแล้วก็ยังรู้สึกผิวแห้งอยู่ ถึงจะทาซ้ำก็ยังเหมือนเดิม ลักษณะประมาณว่า พอถูไถ ถ้าจะให้ซื้อซ้ำอีก อาจจะไม่แล้ว อาจจะหาตัวอื่นแทน แต่ถ้าสำหรับใครที่ผิวไม่ได้แห้งมาก สามารถใช้ได้ดีจ้า
ตัวต่อไป ราคาจะกระโดดไปหลักพันกับ ตัวนี้..
Aveda Rosemary Mint Body Lotion
ราคา : 1,300 บาท /200ml
ความสบายตัว : สดชื่นขีดสุด
ตัวนี้ตอนซื้อ ซื้อเพราะว่าตอนลอง ทาแล้วเย็นๆ ดมแล้วเย็นๆ สบายๆ วันไหนเวลารู้สึกคันๆผิว เอามาทาแล้วสบายตัวเว่อร์ๆ มากๆ แต่ติดที่ราคาสูง เลยจะใช้ไม่ค่อยบ่อยเท่าไหร่ เรื่องความชุ่มชื่นได้แค่ปานกลาง อาจจะเน้นที่ทาแล้วสดชื่น สบายผิว จึงไม่ค่อยชุ่มชื่น
ส่วนตัวคิดว่า สองอย่างนี้มันเป็น trade off กันและกัน
ถ้าชุ่มชื่นมาก ก็จะตามมาด้วยความเหนอะ แต่ถ้า ไม่เน้นชุ่มชื่นมาก ก็จะได้ความสบายผิว สบายตัว
เราจะอัพราคากันขึ้นไปเรื่อยๆ
เป็น counter brand
กับ L'occitane
L'Occitane Milk Concentrate Almond
ราคา : 2,650 บาท
ความสบายผิว : อยู่ปานกลางระหว่างความเหนอะ กับความสบายผิว
เค้าบอกว่ามันเป็น milk concentrate ไม่ใช่ โลชั่น 555555
ต้องแปลว่าอะไร? นมเข้มข้นเหรอ? ตลกอะ
กลิ่นหอมเบาๆ ไม่ฉุน ไม่เว่อร์ ทาแล้วติดผิว ถ้ายิ่งใช้คู่กับตัว Shower Oil
ไม่ใช่กลิ่นแนวสดชื่น แต่ออกแนวนมอัลมอนด์นิดๆ แถมช่วยเรื่องความเฟิร์ม และความกระชับของผิวด้วย
สุดท้ายแล้ว
Jo Malone สองกลิ่น
Jo Malone Body Crème
มีสองกลิ่น Nectarine Blossoms & Honey, Wood Sage & Sea Salt
ราคา 3,600 บาท/ กระปุก
ความสบายผิว : เหนอะขั้นสุด
อย่างที่บอกไปตอนต้นว่า ปุ๋ยเป็นคนชอบทาผิว แล้วเหนอะๆ เพราะให้ความรู้สึกผิวไม่แห้ง ชุ่มชื่นมาก
กลิ่นติดผิวขั้นสุดเช่นกัน เพราะว่าเป็นโลชั่นน้ำหอมเนาะ เคยใช้กลิ่น wood sage & sea salt แล้วคนรู้จัก เดินผ่านไปผ่านมา เค้าพูดกับปุ๋ยว่า "เดินผ่านทีไรได้กลิ่นนี้ตลอด ห๊อมมม หอมมม"
ไอเราได้ยินก็ปลื้ม ชอบบๆ 55555555 แต่ติดที่ว่าราคาแพง เลยใช้ทีละนิด
แต่จะว่าไป ใช้นิดเดียวก็ได้ทั้งแขนแล้ว ถ้าเปรียบเทียบกับหลายๆแบรนด์ อันนี้แค่ใช้ปลายนิ้วก้อย ก็ได้ทั้งแขน ไม่เหมือนกับเจอเจ้นส์ ที่ต้องปั๊มๆๆๆ แล้วถึงทาแขนได้ข้างนึง
ประมาณนั้นจ่ะ
หมดแล้ววววววววว กับการรีวิวครีมทาผิวในครั้งเน้
ขอบพระคุณข่ะะ
No comments